การออมเงินเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างฐานะทางการเงินที่มั่นคง ไม่ว่าคุณจะมีรายได้มากหรือน้อย การออมช่วยให้คุณสามารถรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน วางแผนอนาคต และลดความกังวลเรื่องเงินในชีวิตประจำวัน แต่การเริ่มต้นออมเงินและทำให้เป็นนิสัยที่ต่อเนื่องอาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทุกคน บทความนี้จะช่วยแนะนำวิธีการออมเงินที่ได้ผลจริงและสามารถนำไปปฏิบัติได้ทันทีครับ
1. กำหนดเป้าหมายการออมอย่างชัดเจน
การตั้งเป้าหมายการออมเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ เป้าหมายที่ชัดเจน จะช่วยสร้างแรงจูงใจและทำให้คุณรู้ว่าคุณกำลังออมเพื่ออะไร เช่น การออมเพื่อการซื้อบ้าน ซื้อรถ เก็บเป็นเงินสำรองฉุกเฉิน หรือเพื่อเกษียณอายุ
ควรแยกเป้าหมายออกเป็นระยะสั้น (เช่น การท่องเที่ยว หรือซื้อของที่ต้องการภายใน 6 เดือน) และระยะยาว ที่มากกว่าหลักเดือน (เช่น การสร้างกองทุนการศึกษาให้ลูก) จากนั้นระบุจำนวนเงินที่ต้องการเก็บและกรอบเวลาที่ชัดเจน เช่น “ฉันต้องการออม 100,000 บาทภายใน 12 เดือน”
2. จ่ายให้ตัวเองก่อน
หนึ่งในกฎทองของการออมเงินคือการ “จ่ายให้ตัวเองก่อน” หมายความว่าเมื่อคุณได้รับรายได้ ให้นำส่วนที่ต้องการออมออกมาก่อนที่คุณจะเริ่มใช้จ่ายในสิ่งอื่น วิธีนี้ช่วยป้องกันการใช้เงินจนหมดก่อนออม การกำหนดสัดส่วนการออมที่เหมาะสม เช่น 10-20% ของรายได้ สามารถเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี
ตัวอย่างเช่น หากคุณมีรายได้ 30,000 บาทต่อเดือน ให้ตั้งเป้าออม 3,000-6,000 บาททันทีหลังจากได้รับเงินเดือน โดยคุณสามารถตั้งระบบออมอัตโนมัติผ่านธนาคารเพื่อช่วยให้กระบวนการนี้ง่ายขึ้น
3. วางแผนงบประมาณ
การทำงบประมาณเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้คุณควบคุมการใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพในการออมเงิน ลองใช้กฎ 50/30/20 เพื่อจัดการรายได้ของคุณ:
- 50% สำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น เช่น ค่าที่พัก อาหาร ค่าเดินทาง
- 30% สำหรับความบันเทิงหรือสิ่งที่คุณต้องการ
- 20% สำหรับการออมและการลงทุน
ตัวอย่างเช่น หากคุณมีรายได้ 20,000 บาทต่อเดือน ให้แบ่งเป็น 10,000 บาทสำหรับค่าใช้จ่ายจำเป็น 6,000 บาทสำหรับความบันเทิง และ 4,000 บาทสำหรับการออม
4. ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
การ ลดรายจ่าย เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการเพิ่มเงินออม ลองทบทวนพฤติกรรมการใช้จ่ายของคุณ เช่น การซื้อกาแฟราคาแพงทุกวัน การกินอาหารนอกบ้านบ่อยครั้ง หรือการช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมที่ไม่จำเป็น เลือกใช้ชีวิตแบบมินิมอลและใช้จ่ายเฉพาะสิ่งที่จำเป็นจริงๆ จะช่วยให้การออมเห็นผลมากขึ้นเป็นอย่างมาก
อีกวิธีหนึ่งคือการมองหาส่วนลดและโปรโมชั่น เช่น การซื้อของในช่วงเซลล์ ใช้บัตรสะสมแต้ม หรือสมัครสมาชิกเพื่อรับส่วนลด
5. เลือกบัญชีออมทรัพย์ที่เหมาะสม
เก็บเงินออมของคุณในบัญชีที่มีดอกเบี้ยสูง หรือฝากประจำเพื่อเพิ่มผลตอบแทน นอกจากนี้ การแยกบัญชีเงินออมออกจากบัญชีรายจ่ายจะช่วยลดความเสี่ยงที่คุณจะใช้เงินออมโดยไม่ตั้งใจ
6. ลงทุนเพื่อเพิ่มมูลค่าเงิน
การลงทุนเป็นวิธีที่ดีในการทำให้เงินของคุณเติบโต ศึกษาตัวเลือกการลงทุนที่เหมาะสมกับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ เช่น
- กองทุนรวม: สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกและมีมืออาชีพดูแล
- หุ้น: สำหรับผู้ที่ยอมรับความเสี่ยงได้สูงและต้องการผลตอบแทนในระยะยาว
- พันธบัตร: สำหรับผู้ที่ต้องการความเสี่ยงต่ำ
เริ่มต้นจากจำนวนเงินเล็ก ๆ และค่อย ๆ เพิ่มการลงทุนเมื่อคุณมีความมั่นใจ เพราะสำหรับบางคนที่มีรายจ่ายพอๆกับรายรับ ไม่ว่าจะออมยังไงก็ไม่เติบโตสักที เพราะฉะนั้นสิ่งที่ควรจะทำเพิ่มคือ การหารายได้เสริม หรือการลงทุนเพื่อเพิ่มมูลค่าของเงิน นอกเหนือจาก 3 อย่างที่บอกไปแล้ว จะลงทุนทางคริปโต หรือแพลตฟอร์มถูกกฎหมายก็ถือว่าโอเคครับ
7. ออมเงินสำรองฉุกเฉิน
การมีเงินสำรองฉุกเฉินช่วยให้คุณรับมือกับสถานการณ์ไม่คาดฝัน เช่น การเจ็บป่วย การตกงาน หรือค่าใช้จ่ายด่วนที่จำเป็น โดยทั่วไปควรมีเงินสำรองประมาณ 3-6 เท่าของค่าใช้จ่ายรายเดือน
8. ใช้เทคโนโลยีช่วยออม
แอปพลิเคชันจัดการการเงิน หรือแอปธนาคารที่มีฟีเจอร์ช่วยออม สามารถช่วยติดตามรายจ่ายและกำหนดเป้าหมายการออมได้อย่างสะดวก คุณยังสามารถตั้งระบบออมอัตโนมัติ เช่น หักเงินจากบัญชีรายได้ไปยังบัญชีออมเงินทุกเดือน หรือจะแบ่งกระเป๋าตังอย่างชัดเจนก็สามารถทำได้เช่นกัน เช่น กระเป๋าตังใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน กระเป๋าตังออมยาว กระเป๋าตังค่าประกัน เป็นต้น
9. สร้างรายได้เสริม
หากรายได้ปัจจุบันไม่เพียงพอสำหรับการออม ลองหาช่องทางสร้างรายได้เสริม เช่น การทำงานฟรีแลนซ์ การขายของออนไลน์ เดิมพันแพลตฟอร์มออนไลน์ถูกกฎหมาย หรือการให้เช่าทรัพย์สิน รายได้ส่วนนี้สามารถนำไปใช้เป็นเงินออมได้ทั้งหมด
10. สร้างวินัยการออม
ความสำเร็จในการออมเงินไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่ออม แต่ขึ้นอยู่กับความต่อเนื่องและวินัย สร้างนิสัยในการออมเงินทุกเดือนและพยายามรักษาเป้าหมายของคุณ เพราะถ้าออมต่อเนื่องถึงจะเป็นเงินไม่เยอะมาก แต่ถ้าบวกกับวินัยและความต่อเนื่องเงินก็จะกลายเป็นเงินใหญ่ได้ในอนาคตครับ
สรุปวิธีการออมให้ได้ผล
ต้องเน้นความต่อเนื่องในการออม โดยแบ่งเงินออกมาเป็น 10-20% เพื่อออมเงินโดยเฉพาะ และหากมีเงินเหลือไม่พอสำหรับการออมก็สามารถหารายได้เสริมหรือลงทุนในสิ่งต่างๆที่จะสามารถสร้างเงินได้มากขึ้น ก็จะมีประสิทธิภาพในการออมที่เยอะขึ้นนั่นเองครับ